ที่จังหวัดนครพนมมีผู้ปกครองท่านหนึ่งได้มีการ โพสต์ Facebook เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับหลานชายของเขาในขณะที่อยู่ในรั้วโรงเรียนให้ผู้คนในโลกออนไลน์ได้ฟังด้วยเหตุการณ์ดังกล่าวถูกระบุว่าเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 เดือนสิงหาคมปีพศ2563 ซึ่งได้มีการเล่าว่าในวันดังกล่าวนั้นหลานชายกำลังนั่งเรียนในห้องเรียนกับเพื่อนๆซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวเพราะเป็นช่วงของการจัดทำกิจกรรม
ซึ่งในเวลานั้นไม่มีคนคุยควบคุมนักเรียนอยู่ที่ห้องเลยโดยหลานชายของเขานั้นเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นเพราะว่าเพื่อนๆต่างพากันรุมแกล้งหลานชายด้วยการเอาน้ำหอมมาฉีดใส่ซึ่งหลานชายนั้นได้บอกกับเพื่อนไปแล้วว่าตนเองนั้นแพ้น้ำหอมและหลานชายก็มีโรคประจำตัวอยู่คือโรคหืดหอบ
แต่ยิ่งบอกเพื่อนว่าไม่ชอบน้ำหอมเลิกกับยิ่งแกล้งด้วยการฉีดใส่มากยิ่งขึ้นๆจนในที่สุดหลานชายก็เป็นลมหมดสติ แต่ตอนที่เพื่อนๆในห้องจะช่วยกันปฐมพยาบาลให้หลานชายฟื้นเด็กๆกลับช่วยกันอุ้มหลานชายมาวางไว้บนโต๊ะหลังจากนั้นก็เอาแป้งมาทาหน้าทำเหมือนกับว่าเป็นการแต่งหน้าศพและหัวเราะสนุกสนานชอบใจกันยกใหญ่จะมีเด็กคนหนึ่ง
ซึ่งเห็นว่าหลานชายไม่ยอมลุกขึ้นมาสักทีจึงวิ่งไปบอกครูและจึงได้พาตัวเด็กส่งโรงพยาบาลซึ่งในขณะนี้การใช้ของเขาเข้ารับการรักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาลยังไม่สามารถกลับมาได้ด้วยคุณหมอต้องการเช็คสมองเนื่องจากว่าได้รับผลกระทบตอนล้มหัวฟาดกับพื้นดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการส่งตรวจสอบสมองอย่างละเอียดอีกทีหนึ่ง
สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทางด้านผู้ปกครองของเด็กได้ไปเห็นภาพที่เด็กนำมาโพสต์ลงใน Facebook ของเด็กๆเองซึ่งเมื่อผู้ปกครองได้เห็น ก็รู้สึกเสียใจและสงสารหลานของตนเองเป็นอย่างมากที่ถูกเพื่อนรุมแกล้งแบบนี้และที่สำคัญผู้ปกครองไม่พอใจที่โรงเรียนไม่มีคุณครูคอยดูแลในขณะที่เด็กๆอยู่ภายในโรงเรียนจนทำให้เกิดปัญหา
ดังกล่าวขึ้นทั้งนี้เมื่อไปถามความรับผิดชอบกับทางโรงเรียนทั้งโรงเรียนยังไม่สามารถให้คำตอบได้และเมื่อทางผู้ปกครองของเด็กที่เป็นลมไปแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่ยอมรับแจ้งความอีกเลยบอกว่าให้ไปตกลงกันเองที่โรงเรียนเพราะเป็นการเล่นกันของเด็กๆเขาจึงไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปพึ่งใครจึงได้มีการโพสต์ข้อความลงใน Facebook
เพื่อสอบถามความคิดเห็นของคนในโลกออนไลน์ว่าเขาควรจะแก้ไขปัญหาอย่างไรดีซึ่งหลังจากที่ข้อความนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ต่างก็พากันไม่พอใจกับพฤติกรรมของเด็กนักเรียนรวมถึงพฤติกรรมของโรงเรียนที่ปล่อยปละละเลยเด็กๆจะมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจึงพากันไปถล่ม Facebook ของโรงเรียนในขณะนี้ทางโรงเรียนจำเป็นต้องปิด Facebook ชั่วคราวเพื่อหนีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สนับสนุนโดย แทงหวยออนไลน์ยังไง