หลังน้ำท่วมโครงสร้างบ้านหรือตึกอาจจะเปลี่ยนไป

ความปลอดภัย องค์ประกอบตึก หลังจากประสบกับอุทกภัย ในเรื่องของโครงสร้างรองรับของบ้านจะเสียหายเ พราะว่าฤทธิ์อุทกภัยว่ามีแค่ไหนเอาไว้ว่า

โครงสร้างรองรับของตึก เป็นส่วนที่จมอยู่ใต้น้ำโดยตรง ก็เลยได้โอกาสที่จะเสียหายได้มากกว่าส่วนประกอบที่อยู่ด้านบน ในทางวิศวกรรม โครงสร้างรองรับมีอยู่สองจำพวก เป็นรากฐานที่วางบนดิน และก็รากฐานที่วางบนเสาเข็ม แม้เป็นโครงสร้างรองรับวางบนดินได้โอกาสที่นํ้าซึ่งไหลผ่านไปจะกัดกร่อนดินใต้โครงสร้างรองรับ

โดยเหตุนี้หลังจากที่นํ้าลดรวมทั้งบางครั้งอาจจะมองเห็นรากฐานซึ่งเคยฝังอยู่ใต้ดินโผล่ขึ้นมา ที่ตรงนี้อาจมีผลต่อองค์ประกอบได้ ด้วยเหตุว่าเมื่อดินถูกชะไปจะมีผลให้รากฐานทรุดและก็อาจจะเป็นผลให้ส่วนประกอบสูญเสียการเลี้ยงตัวจนถึงพังทลายได้

ในกรณีที่เป็นรากฐานบนเสาเข็มสั้น ๆ กำลังรับน้ำหนักของเสาเข็มบางทีอาจจะต่ำลง เมื่ออยู่ในดินที่เปียกแฉะน้ำ ซึ่งอาจจะเป็นผลให้กำลังรับน้ำหนักลดน้อยลงได้เช่นเดียวกัน อีกจุดหนึ่งที่ค่อนข้างจะเป็นห่วงเป็นโครงสร้างรองรับที่จมอยู่ใต้น้ำ 1-2 เมตร จะกำเนิดแรงกดดันน้ำดันบ้านให้ลอยขึ้น

โดยยิ่งไปกว่านั้นถ้าเป็นบ้านชั้นเดี่ยวที่มีน้ำหนักไม่มากมายและไม่ได้ใส่เหล็กเดือยยึดเสาเข็มกับโครงสร้างรองรับเข้าไว้ร่วมกัน อาจส่งผลให้ตัวบ้านลอยเขยื้อนออกมาจากรากฐานซึ่งเกิดเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง

 

สำหรับบ้านที่ใช้เสาเข็มยาวพอที่จะฝังลงไปในดินมาก ๆ ถึงชั้นดินแข็ง  รวม  วิธีการรักษาสุขภาพหูให้แข็งแรง     ทั้งมีเหล็กเดือยยึดระหว่างเสาเข็มรวมทั้งโครงสร้างรองรับก็จะเป็นส่วนประกอบที่มีความปลอดภัยสูงขึ้นมากยิ่งกว่า ส่วนวิธีการปรับปรุงแก้ไขซ่อนแซมตึก บ้านช่องที่ได้รับความเสื่อมโทรมจากภัยน้ำหลาก มีดังนี้

 

การบูรณะส่วนประกอบตึกที่ได้รับความย่ำแย่ขึ้นกับระดับความเสื่อมโทรมที่เกิดขึ้น ซึ่งเพียงพอสรุปเป็นวิธีทางดังต่อไปนี้

  1. คานแล้วก็เสา ถ้ามีรอยแตกร้าวแต่ว่ายังไม่ถึงกับขนาดเหยเกเสียรูปทรง บางทีอาจซ่อมบำรุงรอยแตกร้าวด้วยการฉีดกาวอีพ็อกซี่เข้าไปในตามร่องแตกร้าว แล้วก็ถ้าเหล็กที่เป็นตัวเสริมพบสนิมควรต้องขัดเอาสนิมออกแล้วลงสีป้องกันสนิม เสริมเหล็กเพิ่มอีกแล้วพอกคอนกรีตกลับไปเฉกเช่นเดิม

 

  1. ถ้าเสาหักหรือขาด จะต้องรีบให้ช่างหาเสาเหล็กหรือเสาไม้มาเป้นส่วนประกอบโดยเร็ว เนื่องจากว่าเสาที่หักจะรับน้ำหนักมิได้อีกต่อไป โดยเหตุนั้นองค์ประกอบบางครั้งก็อาจจะกระหน่ำลงมาได้ตลอดเวลา ต้องรีบขอความเห็นวิศวกร การปรับแก้จำต้องตีเสาทิ้งและก็หล่อเสาขึ้นใหม่

 

  1. พื้นหรือกำแพงที่ถูกแรงกดดันน้ำดันจนถึงแอ่นตัวหรือยุบ จะจัดว่าพื้นหรือกำแพงนั้นใช้การไม่ได้แล้ว จะต้องเปลี่ยนแปลงใหม่ แม้เป็นกำแพงให้ก่ออิฐขึ้นใหม่ ถ้าเป็นหลักจำต้องตีทิ้ง แล้วผูกเหล็กและหลังจากนั้นก็เทคอนกรีตใหม่

 

  1. ในเรื่องที่ตัวบ้านหลุดหรือเขยื้อนจากรากฐาน จะก่อให้เกิดอันตรายต่อส่วนประกอบมากมาย เพราะเหตุว่าพอ ๆ กับว่าบ้านมิได้รองรับด้วยรากฐานอีกต่อไป ต้องดันตึกให้สูงขึ้นแล้วก็ทำรากฐานใหม่ ซึ่งทำเองมิได้ จำเป็นต้องหารือวิศวกรที่เชี่ยวชาญทางด้านนี้โดยตรง